Dunedin (ดะนีดิน) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ และเมืองหลักในภูมิภาคโอทาโก (Otago Region) ยังถือว่าเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลักของประเทศนิวซีแลนด์ในด้านประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม และเหตุผลทางภูมิศาสตร์ เมืองดะนีดินมีประชากรประมาณ 130,700 คน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 7 ของนิวซีแลนด์ และใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะใต้รองจากไครสต์เชิร์ช ชื่อเมืองมาจากภาษาเกลิคของสก๊อตแลนด์สำหรับเรียกเอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์

พื้นที่เขตเมืองของดะนีดินตั้งอยู่บนชายฝั่งโดยมีเนินเขาอยู่รายรอบ ซึ่งเป็นซากภูเขาไฟที่ดับแล้ว
ระหว่างปี ค.ศ. 1855 ถึง 1900 ชาวสก็อตหลายพันคนอพยพไปยังเมืองใหม่ที่จัดตั้งขึ้น ชาวดะนีดินกลายเป็นเศรษฐีในช่วงยุคตื่นทอง ในช่วงกลางทศวรรษ 1860 และระหว่างปี 1878 และ 1881 ได้กลายเป็นชุมชนเมืองที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ แม้เมื่อภายหลังจะไม่ได้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดแล้ว แต่ Dunedin ยังถือว่าเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลักของนิวซีแลนด์สำหรับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์

ดะนีดินมีเศรษฐกิจที่หลากหลายซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต การตีพิมพ์ และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี รวมถึงการศึกษา การวิจัย และการท่องเที่ยว กิจกรรมสำคัญของเมืองโคจรรอบการศึกษาโดยดะนีดินเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยโอทาโก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของนิวซีแลนด์ (ก่อตั้งขึ้นในปี 1869) และโอทาโกโพลีเทคนิค โดยมีสัดส่วนของนักเรียนต่อจำนวนประชากรเมืองอยู่ในระดับที่สูง (21.6% ของประชากรในเมืองนี้มีอายุระหว่าง 15 และ 24 ปี) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของนิวซีแลนด์ซึ่งอยู่ที่ 14.2%

ในปี 2014 ดะนีดินถูกกำหนดให้เป็นเมืองแห่งวรรณกรรมของยูเนสโก

ดะนีดินได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเป็นยุโรปมากที่สุดในนิวซีแลนด์ ถนนใจกลางเมืองที่ตัดเป็นรูปแปดเหลี่ยม The Octagon เชื่อมดะนีดินเหนือใต้ ยังคงมีสิ่งปลูกสร้างศิลปะโกธิคให้เห็นอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ ที่ทำการสภาเมือง ที่ทำการศาล หรือสถานีรถไฟ ดะนีดินยังมีถนนที่ชันที่สุดในโลก คือ Baldwin Street ซึ่งได้รับการรับรองจาก Guinness Book of Records ว่าชันจริง ในอัตราส่วน 1:2.9 สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งที่ผู้มาเยือนดะนีดินต้องไม่พลาดไปเยี่ยมชม คือปราสาทแห่งเดียวของนิวซีแลนด์ Larnach Castle ซึ่งมีตำนานรักในรอยแค้น ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนเข้าชม

ดะนีดินยังมีชายฝั่งทะเลที่สวยงามสไตล์หน้าผาสูง บนชะง่อนผาเป็นที่อยู่อาศัยและรังของนกอัลบาทรอส นกทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ชายหาดของดะนีดินมีเพนกวิน และแมวน้ำอยู่ประปราย ที่ปลายสุดของ Portobello Peninsula เป็นศูนย์ชีววิทยาทางทะเล Marine Laboratory ของมหาวิทยาลัยโอทาโก้ ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพทุกแขนง

ดะนีดินมีโรงเรียนมัธยมชั้นดี 12 แห่งทั้งแบบประจำและไปกลับ มีทั้งที่เป็นโรงเรียนรัฐและกึ่งเอกชน เป็นเมืองที่ขนาดพอดีๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ นักเรียนรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยและไปไหนๆ ง่ายด้วยระบบรถประจำทางที่ไม่ซับซ้อน โรงเรียนหลายแห่งอยู่ในระยะทางที่เดินลงเมืองได้ (โรงเรียนส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเขา) ที่มหาวิทยาลัยมีศูนย์ภาษาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในนิวซีแลนด์ ชื่อว่า The University of Otago Language Centre and Foundation Year (UOLCFY)

อากาศเมืองดะนีดินแห้งแต่อบอุ่น ฝนตกน้อย และค่อนข้างหนาวในฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวพอ ๆ กับเมืองควีนส์ทาวน์ คือประมาณ 8 องศาในตอนกลางวัน และประมาณ -1 ถึง 1 องศาในตอนกลางคืน ในเมืองมีหิมะตกปีละ 1-2 วัน แต่เนินเขารอบ ๆ เมืองมีหิมะตกให้เห็นอยู่ทุกปี

ประชากรดะนีดินเป็นชาวนิวซีแลนด์เชื้อสายยุโรปสูงถึง 88% เป็นชาวเมารีประมาณ 7% คนเอเชีย 12% ที่เหลือเป็นเชื้อสายอื่นๆ เช่นชาวเกาะแปซิฟิคจากประเทศเพื่อนบ้าน, ชาวอาหรับ/ลาติน/แอฟริกัน และกลุ่มที่ระบุว่าตนเป็น New Zealander ที่ไม่ต้องการระบุเชื้อชาติของตนอีกจำนวนหนึ่ง

ดะนีดินเหมาะกับนักเรียนที่ชอบกีฬา (มีสนามกีฬาขนาดใหญ่น้อยอยู่ทั่วไป) หรือชอบร้องเพลงประสานเสียง (มีวงขับร้องประสานเสียงนับได้หลายสิบวง) หรือชอบดนตรี (มีวงซิมโฟนีออเคสตร้าประจำเมืองถึงสามวงไม่นับที่อยู่ตามโรงเรียนต่างๆ แทบทุกโรงเรียน, มี Brass Band สามวง และแถมมี Pipe Band สำหรับคนชอบออร์แกน) นอกจากนั้นยังมีสถานที่บันทึกเสียงและผลิตเพลง มีวงดนตรีสากลหลายวงสำหรับคนที่ชอบแนวเพลงประเภทต่าง ๆ

ดะนีดินมีทีมกีฬาของตัวเองเป็นสิบ มีสนามและสเตเดี้ยมเป็นโหล และมีโรงละคร โรงภาพยนตร์ใหญ่น้อยทุกรูปแบบ ทางด้านสาธารณสุข ดะนีดินมีโรงพยาบาล 3 แห่ง ทั้งที่เป็นโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน คณะแพทย์ของ ม.โอทาโก้เป็นส่วนหนึ่งของ Dunedin Public Hospital

ดะนีดินได้รับเลือกให้เป็น Gigatown แห่งแรกของนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2017 ทำให้เมืองนี้มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gigabit per second ใช้เป็นแห่งแรกในนิวซีแลนด์ (เร็วที่สุดในซีกโลกใต้)

 

มหาวิทยาลัยของเมืองนี้

  • University of Otago – คณะที่เด่นคือ แพทย์, สาธารณสุข, วิทยาศาสตร์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save